วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูหนังเรื่องที่เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่อายุประมาณ 59 ปี โดยเขานั้นมีนิสัยที่ค่อนข้างจะโผงผางและอาจจะปากเสียไปบ้างแต่ก็รักในความถูกต้องชื่นชอบในการทำงานหนัก สิ่งที่เขานั้นไม่ชอบนั้นก็คือการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์นั้นมีความขี้เกียจและด้อยพัฒนาลง โดยบทบาทของลุงขี้หงุดหงิดคนนี้นั้นได้รับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ทอม แฮงก์ส ที่จะมารับบทบาทในครั้งนี้ เพียงแค่เห็นชื่อนักแสดงก็ทำให้เรานั้นอยากดูหนังเรื่องนี้กันมากขึ้นแล้ว
โดยหนังเรื่องนี้นั่นก็คือ A Man Called Otto หรือว่าชื่อในภาษาไทยมนุษย์ลุง ชื่ออ๊อตโต้ ดูหนังเรื่องนี้นั้นได้ถูกดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดังที่มียอดขายติดอันดับหนึ่งของนิวยอร์กไทมส์กันเลยนั่นก็คือ ชายชื่ออูเว่ หรือว่า A Man Called Ove โดยเป็นผลงานของนักเขียนชื่อดังอย่างเฟรียดริก บั๊กมัน โดยตัวของเขานั้นเป็นนักเขียนชาวสวีเดนชื่อดัง แต่ว่านิยายเรื่องนี้นั้นเคยถูกดัดแปลงและสร้างกลายเป็นหนังมาก่อนแล้วในปี 2015 โดยใช้ชื่อเดียวกับหนังสือนิยายเลยและได้นักแสดงอย่างรอล์ฟ ลาสการ์ด มารับบทแสดงเป็นตัวละครหลักนั่นเอง
แต่ในรอบนี้นั้นเราได้ผู้กำกับฝีมือดีชื่อดังอย่างมาร์ก ฟอร์สเตอร์ มาทำการรีเมกหนังเรื่องนี้ให้ออกมาในฉบับใหม่และถ่ายทอดออกในโลกของภาพยนตร์และใส่ส่วนผสมของหนังเรื่องนี้มาหลายแนว ความดราม่าที่มีความเศร้าจัดเต็ม ความรักโรแมนติกแสนหวาน หรือว่าดาร์กคอมเมดี้ แต่ในรอบนี้นั้นเขาได้เปลี่ยนตัวเอกที่มีชื่อว่าอูเว่ ให้กลายเป็นชื่ออ๊อตโต ที่เป็นเพียงแค่มนุษย์ลุงขี้หงุดหงิดคนหนึ่ง ที่ในตอนนี้นั้นเค้าไม่มีเป้าหมายชีวิต และยังคงรำลึกถึงอดีตภรรยาของเขาที่มีชื่อว่าซอนญ่า เพราะว่าเธอนั้นได้จากโลกนี้ไปเสียแล้วด้วยความเศร้าจากโลกของเขาที่ไม่มีสีสันเหลืออยู่เลยจึงทำให้เขานั้นคิดจะจบชีวิตตัวเองลงเพื่ออำลาโลกอันน่าเบื่อเช่นนี้มาหลายรอบ
แต่เขานั้นก็ไม่สามารถทำได้เสียที เพราะว่าก่อนที่เขากำลังจะทำนั้นก็มักจะเกิดเรื่องหงุดหงิดที่มาขัดจังหวะเขาได้เสมอ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านอย่าง มาริซอล เขานั้นเป็นชาวต่างชาติที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่ เธอนั้นได้พาสามีและลูกของเธออีกสองคนมาพักอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน แล้วพวกเขานั้นก็มักจะกวนใจคุณลุงคนนี้เสมอ เธอนั้นมักจะเข้ามาคุยและขอร้องความช่วยเหลือกับอ็อตโต้ตลอด โดยไม่สนใจว่าเขานั้นจะยินดีต้อนรับหรือพร้อมที่จะรับฟังหรือเปล่า ด้วยความปั่นป่วนวุ่นวายในครั้งนี้จึงกลายเป็นเรื่องราวของความอบอุ่นของมิตรภาพนั้นเกิดขึ้นมา
โดยภาพรวมของหนังเรื่องนี้นั้นแล้วจะเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้นั้นมีทั้งความ สนุก ความดราม่าที่ซึ้งจนกินใจ แถมยังมีความอบอุ่นที่ทำให้เรานั้นประทับใจได้อีกด้วย และได้มีข้อคิดที่ทำให้เรานั้นได้เข้าใจว่า เราไม่อาจตัดสินคนจากภายนอกได้ โดยเฉพาะมนุษย์เพราะว่าถึงแม้ว่าภายนอกอาจจะดูเป็นคนไม่ดีแต่ว่าภายในอาจจะกำลังเจ็บปวดอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้น ถ้าหากว่าจะดูหนังเรื่องนี้แล้วเราก็จะต้องเตรียมทิชชู่เอาไว้ซับน้ำตาไว้ก่อนเลย